ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็วและซับซ้อน ประเทศไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางของประเทศและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว Thailand Presidents Summit 2025 จึงถูกจัดขึ้น เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีผู้นำองค์กรชั้นนำจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงนักคิด นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และกำหนดแนวทางเพื่อขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย
ในงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก 4 ผู้นำระดับแนวหน้าของประเทศ ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยในหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่
- ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย
นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษาไทยให้เท่าทันโลก พร้อมสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพสูงสู่เวทีสากล - คุณธนินท์ เจียรวนนท์
ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมของไทย ผู้ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านอาหารแห่งอนาคต (Future Food) - ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร
อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักปฏิรูปการศึกษาผู้มุ่งมั่นพัฒนาแนวทางการเรียนรู้เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีทักษะที่โลกต้องการ - คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Gulf Energy Development และประธานกรรมการบริหาร AIS ผู้นำด้านพลังงานและเทคโนโลยีที่กำลังขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดและนวัตกรรมดิจิทัล
3 ปัจจัยหลัก ขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย
ผู้นำทั้ง 4 ท่านได้นำเสนอวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาประเทศผ่าน 3 ปัจจัยหลักที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความยั่งยืนของประเทศ ได้แก่
1. การพัฒนาอาหารและเกษตรกรรม: ความมั่นคงทางอาหารเพื่ออนาคต
- อุตสาหกรรมอาหารเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยกว่า 90% ของมูลค่าทางเศรษฐกิจจากภาคเกษตรกรรมและอาหารเป็นเงินหมุนเวียนภายในประเทศ
- การส่งเสริม เทคโนโลยีการเกษตร และ Food Innovation เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านอาหารแห่งอนาคต
- การสร้างโอกาสให้เกษตรกรไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลก และพัฒนาโมเดลธุรกิจเกษตรแบบยั่งยืน
2. การพัฒนาพลังงาน: ขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด
- พลังงานไม่ใช่แค่ต้นทุนของเศรษฐกิจ แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาในอนาคต
- การลงทุนใน พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน
- การสร้าง โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ยั่งยืน รองรับการเติบโตของธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม
3. การพัฒนาการศึกษา: กุญแจสำคัญสู่อนาคตของชาติ
- การศึกษาไม่ใช่เพียงแค่การเรียนรู้ในห้องเรียน แต่ต้องเป็น Future Education ที่สร้าง Future Human
- การปฏิรูปหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและเทคโนโลยี
- การพัฒนาทักษะดิจิทัล (Digital Skills) และการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning)
รวมพลังทุกภาคส่วน เพื่อประเทศไทยที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
Thailand Presidents Summit 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่เวทีเสวนา แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันออกแบบและขับเคลื่อนประเทศไทยให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในทุกมิติ
การประชุมครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดทิศทางของประเทศไทยในอนาคต โดยอาศัยความร่วมมือของผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ และก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน